วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Top 3 London Government Buildings

1. Westminster Palace ( พระราชวังเวสต์มินสเตอร์ )



สถาปนิกผู้ออกแบบ
: Sir Charles Barry
สถานที่ตั้ง
: Westminster
รูปแบบ
: สถาปัตยกรรมแบบโกธิค

พระราชวังเวสต์มินสเตอร์ หรือ ตึกรัฐสภาเวสต์มินสเตอร์ เป็นสถานที่ที่สภาสองสภาของ รัฐสภาแห่งสหราชอาณาจักรใช้จัดประชุม พระราชวังตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของแม่น้ำเทมส์ ในนครเวสต์มินสเตอร์ เมืองลอนดอน

พระราชวังเวสต์มินสเตอร์มีห้องทั้งหมดด้วยกันประมาณ 1,100 ห้อง, 100 บันไดและระเบียงยาวรวมทั้งหมดประมาณ 4.8 กิโลเมตร ตัวสิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่สร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 19 แต่ก็ยังมีส่วนก่อสร้างเดิมเหลืออยู่บ้างเล็กน้อย รวมทั้งท้องพระโรงที่ใน ปัจจุบันใช้ในงานสำคัญๆ เช่นการตั้งศพของบุคคลสำคัญก่อนที่จะนำไปฝัง

2.Tower of London (หอคอยแห่งลอนดอน)


สถาปนิกผู้ออกแบบ : บาทหลวง กันดัลฟ
สถานที่ตั้ง : East London
รูปแบบ : สถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์

เป็นพระราชวังหลวงและป้อมปราการ ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำเทมส์ ในกรุงลอนดอนในอังกฤษ เป็นพระราชวังที่เดิมสร้างโดยพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ. 1078 เป็นสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ พระราชวังเป็นรู้จักกันในนามว่า “หอคอยแห่งลอนดอน” ตัวปราสาทตั้งอยู่ภายในโบโรแห่งทาวเวอร์แฮมเล็ทส์ และแยกจากด้านตะวันออกของนครหลวงลอนดอนด้วยลานโล่งที่เรียกว่าเนินหอคอยแห่งลอนดอน
หรือ“ทาวเวอร์ฮิล”


3. Windsor Castle ( พระราชวังวินด์เซอร์ )



สถาปนิกผู้ออกแบบ : บาทหลวงวิลเลียมแห่งวิคแฮม
สถานที่ตั้ง : Windsor
รูปแบบ : สถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์

พระราชวังวินด์เซอร์ เป็นพระราชวังตั้งอยู่ที่วินด์เซอร์ มลฑลบาร์คเชอร์ในสหราชอาณาจักร สร้างโดยสมเด็จพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษเมื่อปี ค.ศ. 1070 สถาปัตยกรรมเป็นแบบโรมาเนสก์ พระราชวังวินด์เซอร์เป็นพระราชฐานที่ยังมีผู้อยู่อาศัยที่ใหญ่ที่สุด ในโลก และเป็นพระราชฐานที่เก่าที่สุดที่มีผู้อยู่อาศัยที่ต่อเนื่องกันมาตั้งแต่เริ่มสร้าง เนื้อที่การใช้สอยมีทั้งหมดด้วยกัน 45,000 ตารางเมตร

อ้างอิง http://www.london-architecture.info/TEN/TEN-Government.htm

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2552

รู้จัก อ. นิธิ สถาปิตานนท์

อ.นิธิ สถาปิตานนท์ ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะสถาปัตยกรรม (แบบร่วมสมัย)
ประจำปี พ.ศ.2544
อ.นิธิ สถาปิตานนท์ เกิดเมื่อ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2490 สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย ระดับปริญญาตรีสถาปัตยกรรมศาสตร์บัณฑิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาปัตยกรรมศาตร์มหาบัณฑิตจาก มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา

อ.นิธิ สถาปิตานนท์ ได้รับพระราชทานรางวัลผลงานสถาปัตยกรรมดีเด่น(เหรียญทอง)4 ครั้ง จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และรางวัลชนะเลิศการประกวดแบบทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องและได้รับเกียรติเป็นนายกสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมป์,เลขาธิการสภาสถาปนิก, เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ The Japan Institute of Architects ฯลฯ
ด้านงานเขียน นิธิเขียนหนังสือบทความทางวิทยาการเกี่ยวกับวิชาชีพสถาปัตยกรรมเผยแพร่ในโอกาสต่างๆ ตลอดจนเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ที่
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยศิลปากร ,มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เป็นต้น
ผลงานด้านสถาปัตย์ของอ.นิธิ สถาปิตานนท์ จะสร้างสรรค์ในรูปแบบร่วมสมัยเสียเป็นส่วนมาก และมีหลากหลายประเภททั้งที่ทำในนามส่วนตัวและบริษัท ความโดดเด่น อยู่ที่คุณภาพอันสม่ำเสมอมากกว่าเขาจะให้ความสำคัญกับFunctionมาเป็นอันดับแรกๆ เพราะฉะนั้นรูปแบบภายนอกจึงขึ้นอยู่กับโจทย์ที่ได้มา และแสดงความชัดเจนอย่างเรียบง่าย
ผลงานในด้านการบริหาร
ประธานกรรมการ บริษัทในเครือ 49 กรุ๊ป
ประธานกรรมการ บริษัท บริษัทสถาปนิก 49 จำกัด
กรรมการผุ้ทรงคุณวุฒิ สภามหาวิทยาลัยศิลปากร
อดีตเลขาธิการสภาสถาปนิก
อดีตนายกสมาคนสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์

รู้จักกับผลงานของ อ.นิธิ สถาปิตานนท์

กระทรวงต่างประเทศ













"เราต้องตีโจทย์กันก่อนก็คือ หนึ่งงานของกระทรวงต่างประเทศ เป็นงานของทางราชการที่ต้องประกวดแบบ สองเป็นอาคารราชการที่ต้องเป็นหน้าตาของประเทศชาติ สามจะต้องเป็นสถานที่ต้อนรับแขกชาวต่างประเทศระดับกระทรวงอยู่เสมอๆ แล้วเมื่อต้องเป็นหน้าตาของประเทศก็ควรจะต้องมีความเป็นไทย"
นี่เป็นโจทย์คร่าวๆ ที่ อ. นิธิ สถาปิตานนท์ ได้บอกเล่าให้เราฟังเกี่ยวกับงานออกแบบชิ้นนี้ของเขา
กระทรวงต่างประเทศ เป็นอาคารในแบบไทยประยุกต์ที่เรียบง่าย แต่สวยสง่า ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนศรีอยุธยา ติดกับบริเวณพระราชวังสวนจิตลดา คอนเซ็ปท์ที่ทำให้แปลกกว่าอาคารโดยทั่วไปคืออาคารหลังนี้ถูกบังคับด้วยกฎหมาย ตัวอาคารจะสูงได้ไม่เกิน 23 เมตร เนื่องจากติดพระราชวัง บางส่วนจำเป็นต้องทำเป็นผนังตันปิดทึบหมด โดยเฉพาะในด้านที่ติดกับพระราชวัง และ จากข้อกำหนดที่ทำให้มีความสูงได้ไม่มากนี้ ตัวอาคารจึงต้องมีการแผ่กว้างออกไปเต็มพื้นที่ และในส่วนที่เป็นผนังทึบก็ต้องมีการดึงเอาแสงจากภายนอกเข้ามา โดยอาศัยการออกแบบให้มีหลังคากระจก หรือการเปิดพื้นที่ว่างทำเป็นคอร์ท
ในส่วนของแนวคิดเกี่ยวกับความเป็นไทยของงานออกแบบอาคารกระทรวงต่างประเทศนั้น เริ่มต้นกันตั้งแต่การวางผังพื้นกันเลยทีเดียว ตัวอาคารมีการวางระบบแกน เหมือนเช่น สิ่งปลูกสร้างในสมัยโบราณ วัดวาอาราม หรือพระราชวังต่างๆ ที่ต้องมีแกนที่สัมพันธ์กับทิศ ซึ่งอาคารหลังนี้รับเอารูปแบบที่เรียบง่ายที่สุดเป็นหลังคาทรงจั่ว (โดยวัสดุที่ใช้เน้นเป็นวัสดุสมัยใหม่) มีระเบียงแก้ว ช่องประตู หน้าต่าง และโคมระย้าที่ยังเป็นองค์ประกอบที่สื่อถึงความเป็นไทย

ฟังก์ชั่นของอาคารประกอบไปด้วยส่วนธุรการและสำนักงาน ซึ่งในส่วนสำนักงานนี้จะมีห้องรับรองจำนวนมากอยู่ภายใน (มีการจัดประชุมหรือสัมมนาอยู่เป็นประจำ) มีห้องประชุม ที่จุคนได้ประมาณสองถึงสามร้อยคน และห้องรับรองขนาดใหญ่ ที่สามารถรองรับได้เป็นพันคน กับอีกส่วนหนึ่งที่จะมีการติดต่อกับบุคคลภายนอกโดยตรง อาทิเช่น ฝ่ายการเงิน ฝ่ายสารนิเทศ หรือฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำหรับการจัดงานแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเป็นต้น

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
http://www.hiclasssociety.com/art/arch-niti.htm
http://th.wikipedia.org/wiki